20.00 น.
คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ U สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ (TK) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง
23.00 น.
ออกเดินทางสู่ อิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK 069 /TK 378 ä บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน ระหว่างการเดินทางท่านจะได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่ พร้อมรับการบริการอันสุดแสนประทับใจ เพลิดเพลินกับจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่งรับชมโปรแกรมความบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์นานาชาติ เพลงสากล สารคดี ช่องกีฬา รวมถึงการ์ตูนสำหรับคุณหนูๆ
05.10 น.
คณะเดินทางถึง ท่าอากาศยานอตาร์เติร์ก-อิสตันบูล สาธารณรัฐตุรกี แวะพักและรอเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางต่อสู่ ทบิลิซี
06.30 น.
ออกเดินทางสู่ ทบิลิซี โดยเที่ยวบินที่ TK 378 ä บริการอาหารว่างและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน
09.45 น.
เดินทางถึง สนามบินนานาชาติทบิลิซี หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากรเรียบร้อยแล้ว รถโค้ชปรับอากาศมาตรฐานยุโรปนำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง ระหว่างทางชมความงามสองข้างทางของ กรุงบิลิซี (Tbilisi) ประเทศจอร์เจีย เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคูรา (KURA) หรือเรียกว่าแม่น้ำมตควารี (Mtkvari) ในภาษาท้องถิ่น ทบิลิซิมีเนื้อที่ประมาณ 372 ตร.กม. และมีประชากร 1,093,000 คน เมืองนี้ถูกสร้างโดยวาคตัง จอร์กาซาลี (Vkhtang Gorgasali) กษัตริย์จอร์เจียแห่งคาร์ตลี (ไอบีเรีย) ได้ก่อตั้งเมืองนี้ขึ้นในคริสตศตวรรษที่ 4 เมืองทบิลิซิเป็นศูนย์กลางการทำอุตสาหกรรม สังคมและวัฒนธรรมในภูมิภาคคอเคซัส ในประวัติศาสตร์เมืองนี้อยู่ในสายทางหนึ่งของเส้นทางสายไหม และปัจจุบันยังมีบทบาทสำคัญในฐานะ ศูนย์กลางการขนส่งและการค้า เนื่องจากความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ในแง่ที่ตั้งที่เป็นจุดตัดระหว่างทวีปเอเชียกับทวียุโรปกรุงทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
หลังอาหารนำท่านชม ย่านเมืองเก่าแห่งนครหลวงทบิลิชี่ (Old town of Tbilisi) เมืองที่เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนสีสันสดใสสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นที่ผสมผสานศิลปะแบบเปอร์เซียและยุโรป ซึ่งเป็นการผสมผสานของตะวันออกและตะวันตกของประเทศที่ตั้งอยู่ระหว่างสองทวีปอย่างจอร์เจีย จึงเกิดเป็นศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะแบบของประเทศจอร์เจีย นำท่านถ่ายรูปกับ โบสถ์เมเตคี (Metekhi church) โบสถ์อันเก่าแก่อายุราว 800 ปี ซึ่งสร้างอุทิศให้แก่พระแม่มารี จากนั้นนำทุกท่านสู่ สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of peace) เป็นอีกหนึ่งงานสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจในเมือง Tbilisi ออกแบบโดย สถาปัคนิกชาวอิตาเลื่ยนชื่อ Michele De Lucchi สะพานมีความยาวที่ 150 เมตร ลักษณะ การออกแบบร่วมสมัย เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2010 จากนั้น นำท่านขึ้นกระเช้าไฟฟ้าสู่ป้อมนาริคาล่า ให้ท่านได้ชมป้อมปราการซึ่งเป็นป้อมโบราณที่ถูกสร้างในราวศตวรรษที่ 4 ในรูปแบบของชูริส ทซิเค อันหมายถึงรูปแบบที่ไม่มีความสม่ำเสมอกัน และต่อมาในราวศตวรรษที่ 7 สมัยของราชวงศ์อูมัยยาดได้มีการก่อสร้างต่อขยายออกไปอีก และต่อมาในสมัยของกษัตริย์เดวิด (ปี ค.ศ. 1089-1125) ได้มีการสร้างเพิ่มเติมขึ้นอีก ซึ่งต่อมาเมื่อพวกมองโกลได้เข้ามายึดครอง ก็ได้เรียกชื่อป้อมแห่งนี้ว่านาริน กาลา (Narin Qala) ซึ่งมีความหมายว่า ป้อมอันเล็ก (Little Fortress) และต่อมาบางส่วนได้พังทลายลง เพราะว่าเกิดแผ่นดินไหวและได้ถูกรื้อทำลายไป
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังมื้ออาหารนำท่านเดินทางสู่ที่พัก
ที่พัก ASTORIA HOTEL TBILISI หรือเทียบเท่า
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เทือกเขาคอร์เคซัส ระหว่างการเดินทางนำท่านแวะชม ป้อมอนานูรี (Ananuri Fortress) สถานที่ก่อสร้างอันเก่าแก่มีกำแพงล้อมรอบและตั้งอยู่ริมแม่น้ำอรักวี ที่ตั้งอยู่ห่างจากทบิลิซีประมาณ 45 กม. ซึ่งถูกสร้างขึ้นให้ เป็นป้อมปราการใน ศตวรรษที่ 16-17 ภายในยังมีโบสถ์ 2 หลังที่ถูกสร้างได้อย่างงดงามและยังมีหอคอยที่สูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ ทำให้เห็นภาพทิวทัศน์อันสวยงามของเบื้องล่างซึ่งเป็นเขื่อนกักเก็บน้ำขนานใหญ่จนกลายเป็นทะเลสาบอันสวยงามตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขา
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
หลังมื้ออาหารนำท่านออกเดินทางต่อไปตามเส้นทางหลวง ริมฝั่งแม่น้ำอรักวี ผ่านเส้นทางจวารี พาส บนเทือกเขาคอเคซัสใหญ่ เพื่อเดินทางสู่ เมืองคาซสเบกี้ (Kazbegi) หรือในปัจจุบันเรียกว่า เมืองสเตปันสมินดา (Stepansminda) โดยชื่อนี้ได้เปลี่ยนเมื่อปี ค.ศ.2006 แต่ผู้คนมักจะเรีย กติดปากกันอยู่ว่า คัสเบกิ เมืองนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงทบิลิซี ประมาณ 157 กิโลเมตร ถือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวบนเทือกเขาคอเคซัส มีภูมิทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ รวมทั้งเป็นจุดชมวิวของยอดเขาคัสเบกิอีกด้วย
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารอิสระให้ท่านได้พักผ่อนกันตามอัธยาศัย
ที่พัก SNO INN KAZBEGI HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่าน นั่งรถจิ๊ปรถขับเคลื่อน 4 ล้อขึ้นสู่ใจกลางหุบเขาคอเคซัส (Caucasus) เพื่อชมความสวยงามของ โบสถ์เกอร์เกตี้ (Gergeti Sameba Church) ซึ่งถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 14 หรือมีอีกชื่อเรียกกันว่าทสมินดา ซามีบา (Tsminda Sameba) ซึ่งเป็นชื่อเรียกที่นิยมกันของ โบสถ์ศักดิ์แห่งนี้ สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งขวาของแม่น้ำชคเฮรี อยู่บนเทือกเขาของคาซเบกี้ (การเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพดิน ฟ้า อากาศ ซึ่งอาจจะถูกปิดกั้นได้ด้วยหิมะที่ปกคลุมอยู่ และการเดินทางอาจจะเป็นอุปสรรคได้ แต่จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้เดินทางให้มากที่สุด) อิสระให้ท่านชมวิวทิวทัศน์ เก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยัง อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย (Memorial of Friendship) อนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นมาในปี ค.ศ. 1983 เพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความสัมพันธ์อันดีของประเทศจอร์เจียและประเทศรัสเซีย โดยอนุสรณ์สถานนี้ตั้งอยู่บน Devil’s Valley ซึ่งอยู่ระหว่างเมืองกูดาอูริและเส้นทางจวารี พาส (Jvari Pass) อนุสรณ์สถานแห่งนี้นั้นเป็นอนุสรณ์สถานขนาดใหญ่ โครงสร้างทั้งหมดทำมาจากหินและคอนกรีต ภายในมีการวาดภาพประวัติศาสตร์ของประเทศจอร์เจียและประเทศรัสเซียไว้อย่างสวยงาม ได้เวลาอันสำควรนำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองกูดาอูริ (Gudauri) ซึ่งเป็นเมืองสำหรับสกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงที่ตั้งอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขาของเทือกเขาคอเคซัสใหญ่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,100 เมตร
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ที่พัก
ที่พัก GUDAURI หรือเทียบเท่า
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองมิทสเคด้า (Miskheta) ศูนย์กลางทางศาสนาของประเทศจอร์เจีย เมืองที่เก่าแก่ที่สุดของจอร์เจียอายุ กว่า 3,000 ปี ในอดีตเมืองนี้เคยเป็นเมือง หลวงของอาณาจักรอิเบเรีย ซึ่งเป็นราชอาณาจักรของจอร์เจียในช่วง 500 ปีก่อนคริสตกาล ถึงปีค.ศ.500 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานแห่งเมืองมิสเคด้า Historical Monument Of Mtskheta เป็นมรดกโลก Unesco World Heritage Site เมื่อปี ค.ศ.1994 จากนั้นนำท่านชม วิหารสเวติสเคอเวรี (Svetitskhoveli Cathedral) ซึ่งคำว่า Sveti หมายถึง “เสา” และ Tskhoveli หมายถึง “ชีวิต” เรียกง่ายๆ รวมกันก็คือวิหารเสามีชีวิต สร้างราวศตวรรษที่ 11 โบสถ์แห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของจอร์เจีย สร้างขึ้นโดยสถาปนิกชาวจอร์เจีย ชื่อ Arsukisdze มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่ทำให้ชาวจอร์เจียเปลี่ยนความเชื่อและหันมานับถือศาสนาคริสต์ และให้ศาสนาคริสต์มาเป็นศาสนาประจำชาติของจอร์เจียเมื่อปี ค.ศ. 337 และถือเป็นสิ่งก่อสร้างยุคโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย ได้เวลาอันสมควรนำท่านชม วิหารจวารี (Jvari Mnastery) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของจอร์เจียสร้างขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 6 มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า อารามแห่งไม้กางเขน Monastery Of The Cross ภายในมีไม้กางเขนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางโถง สันนิษฐานว่าเป็นไม้กางเขนแห่งคริสต์ศาสนาอันแรกของจอร์เจีย มีตำนานเล่าว่าในช่วงต้นศตวรรษที่ 4 นักบุญนีโน่ Saint Nino ผู้เผยแผ่ศาสนาหญิงจากคัปปาโดเกีย ดินแดนในยุคโบราณตั้งอยู่ในภาคกลางของคาบสมุทรอนาโตเลียหรือประเทศตุรกีในปัจจุบัน เป็นผู้นำคริสตศาสนาเข้ามาเผยแผ่ในจอร์เจียเป็นครั้งแรก และเป็นผู้สร้างไม้กางเขน
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบอร์โจมี (Borjomi) เป็นเมืองตากอากาศในจอร์เจียตอนใต้ที่มีประชากร 10,546 คนเป็นหนึ่งในเขตของภูมิภาค Samtskhe-Javakheti และตั้งอยู่ใน หุบเขา Borjomi ที่งดงามด้านตะวันออกของอุทยานแห่งชาติ Borjomi-Kharagauli เมืองนี้มีชื่อเสียงในด้านอุตสาหกรรมน้ำแร่และเป็นที่ตั้งของวังฤดูร้อน Romanov นอกจากนี้ยังเป็นเมืองน้ำแร่ที่มีชื่อเสียงที่สุดมาตั้งแต่อยู่ในการปกครองของโซเวียต นำท่านเที่ยวชมเมือง บอร์โจมี (Borjomi) เมืองตากอากาศเล็ก ๆ ในหุบเขาทางตอนใต้ของประเทศจอร์เจียมีประชากรอาศัยอยู่ไม่ถึง 15,000 คน เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องน้ำแร่ โดยได้มีการบรรจุ ณ ธารน้ำแร่บริสุทธิ์ที่ไหลรินจากยอดเขาบาคุเรียนี Bakuriani Mountain และส่งออกไปขายกว่า 40 ประเทศทั่วโลกโดยในอดีตชาวเมืองเชื่อกันว่าจะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงและสามารถรักษาโรคร้ายได้ นำท่านเดินชม สวนบอร์โจมี (Borjomi City Park) สถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนของชาวเมืองบอร์โจมี ที่นิยมมาเดินเล่นและผ่อนคลายโดยการแช่น้ำแร่ในวันหยุด อิสระให้ท่านเก็บภาพวิวทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงาม
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก
พัก BORJOMI PALACE HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ได้เวลาตามนัดหมายนำท่าน เดินทางสู่ เมืองคูไทซี (Kutaisi) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศจอร์เจีย เป็นเมืองที่มีความสำคัญมาตั้งแต่อดีต ด้วยเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนแหล่งที่มีดินอุดมสมบูรณ์ เหมาะแกการเพาะปลูกจึงถือได้ว่าเป็นเมืองการเกษตรที่สำคัญของจอร์เจีย จากนั้นนำท่านแวะชมความสวยงามของ น้ำพุโคชิส (Colchis Fountain) เป็นน้ำพุแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองคูไทซี ตั้งอยู่ที่จตุรัสกลางเมืองเก่า พึ่งสร้างเสร็จเมื่อปี 2012 นอกจากหน้าตาที่ดูสวยงามแปลกตาแล้ว น้ำพุนี้มีคอนเซ็ปต์คือการเอาเครื่องประดับโบราณของชาวโคลเชียน ที่มีอยู่ในพิพิธภัณฑ์ประมาณ 30 ชิ้น มาขยายแบบแล้วดีไซน์เป็นน้ำพุ อย่างตัวคู่ที่อยู่บนสุดเป็นต่างหูรูปม้าที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ จากนั้นอิสระให้ท่านเดินชมเมือง ถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่ภัตตาคาร
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบาทูมิ (Batumi) เมืองท่าชายทะเลและหนึ่งในเมืองเศรษฐกิจสำคัญของประเทศจอร์เจีย ตัวเมืองตั้งอยู่ติดทะเลดำทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เมืองบาทูมิยังได้รับการสนับสนุนให้เป็นเมืองท่องเที่ยวตั้งแต่ปี ค.ศ.2010 เป็นต้นมา โดยมีการปรับรูปโฉมอาคารและตัวเมืองเก่าเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคต อิสระให้ท่านเดินชมเมือง ถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก
พัก BATUMI หรือเทียบเท่า
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่าน ล่องเรือในทะเลดำชมอ่าวเมืองบาทูมิ (BLACK SEA) เหตุที่ได้ชื่อว่าทะเลดำก็เพราะดินโคลนชายฝั่ง ดินทรายชายหาดของทะเลแห่งนี้เป็น สีดำ อันเนื่องมาจากสารไฮโดรเจนซัลไฟด์ ให้ท่านได้เพลิดเพลินชมความงามของอ่าวเมืองบาทูมิ (ประมาณ 45 นาที)
ได้เวลาอันสมควรนำท่านถ่ายรูปกับ รูปปั้นอาลีและนีโน่ (Ali and Nino Moving Sculpture) รูปปั้นพิเศษสูง 8 เมตรริมทะเลดำที่สามารถเคลื่อนไหวได้ทุก ๆ 10 นาที (เริ่มตั้งแต่ 19.00น.) จุดประสงค์ถูกสร้างขึ้นเพื่อแสดงถึงความรักของหนุ่มสาวต่างเชื้อชาติ ศาสนา และยังแสดงถึงสันติภาพระหว่างประเทศจอร์เจียและอาร์เซอไบจาน
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งที่ The Boulvard เป็นถนนสายใหญ่ที่ทอดยาวไปตามริมอ่าวทะเลดำ และเต็มไปด้วยร้านอาหาร และคาเฟ่มากมาย ให้ลูกค้าได้ผ่อนคลายและถ่ายรูปตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานําท่านเดินชม จัตุรัสปิอาซซ่า (Piazza Square) หนึ่งในจัตุรัสสําคัญของเมืองบาทูมิซึ่งรายล้อมด้วยร้านอาหารและโรงแรม มากมายใกล้ริมอ่าวทะเลดํา โดยสถาปัตยกรรมโดยรอบนับว่าได้แรงบันดาลใจจากประเทศอิตาลีชมงานภาพโมเสกและงานกระจกสีที่หาดูได้ตามอาคารรอบจัตุรัส นําท่านชมบรรยากาศของบ้านเรือนเก่าใน ย่าน Old Town และ Batumi สร้าง ขึ้นในปี 2009 เป็นอาคารที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวจอร์เจีย Vazha Orbeladze สร้างด้วยสไตล์ สถาปัตยกรรมแบบผสมผสาน และในปี 2011 ที่ผ่านมา สถานที่แห่งนี้ได้เริ่มปรับปรุงเพื่อให้เป็นแหล่งบันเทิงและพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ของเมือง ถึงเวลานัดหมายนำท่านเดินทางจาก สนามบินบาทูมิ
20.25 น.
ออกเดินทางสู่ อิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK 393ä บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
21.30 น.
เดินทางถึง ท่าอากาศยานอตาร์เติร์ก-อิสตันบูล แวะพักและรอเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางต่อสู่ กรุงเทพฯ
01.55 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบิน TK 068 ä บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน ระหว่างการเดินทางท่านจะได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่ พร้อมรับการบริการอันสุดแสนประทับใจ เพลิดเพลินกับจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่งรับชมโปรแกรมความบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์นานาชาติ เพลงสากล สารคดี ช่องกีฬา รวมถึงการ์ตูนสำหรับคุณหนูๆ
15.00 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดิภาพ…พร้อมความประทับใจไม่รู้ลืม