เดลลี-อัครา-ชัยปุระ 6 วัน 4 คืน
ทัวร์อินเดีย เยือนดินแดนศิลปะอันยิ่งใหญ่ ชมทัชมาฮาล หนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
14.00 น.
คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณชั้น 4 บริเวณเคาน์เตอร์สายการบินอินดิโก้ เจ้าหน้าที่ วาริต้า ทราเวล คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับท่าน
17.10 น.
คณะออกเดินทางสู่กรุงเดลลี ด้วยเที่ยวบินที่ 6E1054
20.00 น.
คณะเดินทางถึงกรุงเดลลี เมืองหลวงของประเทศอินเดียเป็นเมืองที่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากเป็นอันดับสองของประเทศ จากนั้นนำท่านสู่โรงแรมที่อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
พัก ITC WELCOME HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านสู่ India Gate หรือประตูเมืองอินเดีย สิ่งก่อสร้างที่มีรูปแบบและลักษณะคล้ายคลึงประตูชัยของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถูกออกแบบให้เป็นประตูทรงโค้งที่มีความสูงถึง 42.35 เมตร โดยเซอร์เอ็ดเวิร์ด ลูตเยนส์ เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่เหล่าทหารอินเดียและอังกฤษจำนวนมากมายที่เสียชีวิตไปในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามอัฟกัน แล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1931 โดยใช้วัสดุในการก่อสร้างเป็นหินทรายแดง ส่วนตรงกลางประตูนั้นมีกระถางหิน ทรายแดงขนาดใหญ่ซึ่งถูกจุดไฟให้ลุกโชนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 จนกระทั่งปัจจุบันจากนั้นให้ท่านมีเวลาเก็บภาพบรรยากาศอันสวยงามกันตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านชมหอคอย กุตับมีนาร์ เดิมชื่อ ปฤถวีสตัมภ์ เป็นหอคอยสุเหร่าสูงที่สุดในโลก และเป็นศิลปกรรมแบบมุสลิมผสมฮินดูที่หาดูได้ยาก มีความสูงทั้งหมด 238 ฟุต แบ่งเป็น 5 ชั้น ภายใน โปร่ง มีบันไดขึ้นไป 379 ขั้น มีคนขึ้นไปกระโดดฆ่าตัวตายบ่อยๆ ปัจจุบันห้ามขึ้นสร้างขึ้นโดยพระเจ้าปฤกวิราช กษัตริย์ฮินดู เพื่อให้พระธิดาขึ้นไปดูแม่น้ำยมุนาอันศักดิ์สิทธิ์ ชมมัสยิดสร้างด้วยหินสีแดงแกะสลักเป็นลวดลายพันธุ์พฤกษาและคำสวดจากคัมภีร์โกหร่าน เดิมหอนี้สูงเพียง 95 ฟุต ต่อมากษัตริย์กุตับอุดดินไอบัก ซึ่งเป็นกษัตริย์มุสลิม ได้ปรับปรุงหอสูงนี้ในปี พ.ศ. 1743 จากนั้นกษัตริย์องค์อื่นในราชวงศ์เดียวกันได้สร้างต่ออีกสองครั้ง ในปี พ.ศ. 1753 และ พ.ศ. 1779 กษัตริย์ฟิโรซ ชาห์ แห่งราชวงศ์ตุกลัขได้เสริมต่อ
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่ วัดอัคชาร์ดาม เป็นวัดในศาสนาฮินดูที่ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 18 ปี นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1968-2005 โดยองค์กร BAPS ตั้งอยู่ในกรุงเดลีบนเนื้อที่ทั้งหมด 30 เอเคอร์ ซึ่งใช้ช่างศิลป์และสถาปนิกในการออกแบบและตกแต่งถึง 7,000 คน นั่นจึงทำให้วัดอัคชาร์ดามได้ ชื่อว่าเป็นวัดที่มีความวิจิตรอลังการกว่าวัดใดๆ ด้วยวัสดุก่อสร้างจากหินอ่อนสีขาวและสีชมพู ประกอบกับสถาปัตยกรรมในแบบอินเดียโบราณที่ยากจะเลียนแบบ ทั้งนี้ผู้ที่เข้าไปชมภายในวัดจะถูกห้ามถ่ายภาพไม่ว่ากรณีใดๆจากนั้นนำท่านสู่ ตลาดจันปาท ถนนช้อปปิ้งยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว มีสินค้าหัตถกรรม และ งานฝีมือพื้นเมืองต่าง ๆ มากมาย ให้ท่านได้เลือกซื้อ เช่น ผ้าไหมอินเดีย ผ้าพันคอจากแคชเมียร์ สาหรี่ เครื่องประดับ และอัญมณี ไม้จันหอมแกะสลักและของตกแต่งบ้าน ฯลฯ
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารเดินทางสู่ที่พัก
พัก ITC WELCOME HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอัครา โดยใช้ทางด่วนพิเศษซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อเดือน พ.ค. ปี 2555 ใช้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางสู่เมืองอัครา สถานที่ตั้งของทัชมาฮาลอันโด่งดัง ระหว่างทางผ่านชมทัศนียภาพชนบทของชาวอินเดีย สัมผัสความเป็นอยู่บ้านเรือนท้องนาหรือแปลงเกษตรต่าง ๆ โดยดินแดนบริเวณนี้ถือได้ว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของอาณาจักรต่าง ๆ ที่อยู่ในอินเดียมานับพันปี โดยเฉพาะราชวงศ์โมกุล จึงมีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านเดินทางไปบริเวณริมฝั่งแม่น้ำยมนา อันเป็นที่ตั้งของ ทัชมาฮาล หนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมนา สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวและหินทรายสีแดง ประดับประดาด้วยรัตนชาติ หินมีค่าหลากหลายชนิด ใช้เวลาในการสร้างถึง 22 ปี เพื่อแสดงถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของ พระเจ้าซาร์จาฮาน ต่อพระมเหสี มุมตัสมาฮาล ที่สวรรคต เนื่องจากการให้กำเนิดบุตรคนที่ 14 ภายในทัชมาฮาลนั้น เป็นที่เก็บพระศพของพระมเหสีมุมตัสมาฮาล และกษัตริย์ ซาร์จาฮาน ท่านจะตะลึงกับความสวยงาม ความละเมียดละไม บรรจงสร้าง ประดับตกแต่งด้วยงานฝีมือที่ละเอียด แบบหาชมที่ไหนไม่ได้ เชิญท่านสัมผัสความยิ่งใหญ่อลังการของทัชมาฮาล และสวนโดยรอบในมุมต่าง ๆ ที่สวยงาม ได้เวลาอันสมควรนำท่านชม ซิกานดา หรือ สุสานแห่งจักรพรรดิอักบาร์ม ที่ซึ่งพระองค์ได้สร้างขึ้นเองด้วยหินทรายสีแดง เพื่อเป็นที่บรรจุศพของพระองค์ บนยอดสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว จากนั้นนำท่านเดินทางไปเข้าชมป้อมปราการประจำเมือง อัคราฟอร์ด เป็นป้อมปราการที่ยิ่งใหญ่ ใช้เวลาในการสร้างยาวนานถึงสามยุค สมัยของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์โมกุล มีลักษณะเป็นกำแพงสองชั้น และป้อมอาคารทางเข้าสี่ทิศ ภายในประกอบด้วยพระราชวัง มัสยิด สวนดอกไม้ สนาม และอาคารทางเดินโดยรอบ จุดเด่นของอัคราฟอร์ดคือ ชาฮังคี มาฮาล อาคารสีแดงจากหินทรายซึ่งจักรพรรดิอัคบาร์ สร้างประทานให้แก่มเหสีฮินดู จอร์ฮาบาย ชมห้องโถงใหญ่ที่สวยงาม, กาซ มาฮาล และ Palace of mirrors. พอร์มารค์ มัสยิดสีขาวสะอาด และ นักร่ามัสยิด สถานที่โอรส คุมขัง กษัตริย์ซาร์จาฮาน ผู้สร้างทัชมาฮาล และเป็นจุดที่พระองค์ทรงใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตมองผ่านแม่น้ำยมนา ไปเห็นทัชมาฮาลที่ซึ่งมเหสีสุดที่รักของพระองค์ประทับอยู่อย่างนิรันดร์ จากนั้นให้ท่านมีเวลาเก็บภาพบรรยากาศอันสวยงามกันตามอัธยาศัย
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารเดินทางสู่ที่พัก
พัก THE FERN RESIDENCY HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทาง เมืองชัยปุระ เป็นเมืองหลวง และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐราชสถาน อีกทั้งเป็นเมืองที่มีการวางผังเมืองที่ยอดเยี่ยมที่สุด สิ่งปลูกสร้างโดยเฉพาะในบริเวณตัวเมืองเก่านั้นได้รับการทาสีให้เป็น สีชมพู แต่คนส่วนใหญ่เห็นมันเป็นสีส้มแดงมากกว่า สาเหตุที่เมืองนี้ถูกทาสีชมพู ในสมัยของมหาราชา Ram Singh อินเดียยังเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ เพื่อต้อนรับกษัตริย์ Edward VII จากสหราชอาณาจักร (ในสมัยที่ดำรงพระยศเป็น Prince of Wales ) เมื่อปี ค.ศ.1853 จึงมีรับสั่งให้ราษฎรทาสีบ้านเรือนเป็นสีชมพู เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติแด่กษัตริย์เจ้าอาณานิคม จัยปูร์ในอดีตถือเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากทั้งด้านวัตถุและวิทยาการสถาปัตยกรรม จะสังเกตได้จาก วังและป้อมโบราณตลอดจนบ้านเรือน
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
นำท่านชมป้อมปราการ แอมเบอร์ฟอร์ท ที่งดงามด้วยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบโมกุลและฮินดู ชมห้องต่างๆ รวมทั้งส่วนวังหลังที่เป็นที่อยู่ของบรรดานางสนม มเหสีต่างๆ ชม ทะเลสาบมอล์ตา จากบนป้อมปราการพระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ท เดิมเคยเป็นราชธานีของเมืองชัยปุระ สร้างอยู่บนเนินเขาสูงตรงตำแหน่งเดิม ที่เคยเป็นตำแหน่งเดิมที่เคยเป็นป้อมปราการเก่าในศตวรรษที่ 11 มาก่อน สร้างขึ้นโดยมหาราชาแมนสิงห์ ใน ปี ค.ศ. 1592 และเสร็จสิ้นลงในสมัยของมหาราชาใจสิงห์ ป้อมแห่งนี้เป็นต้นแบบที่ดีของสถาปัตยกรรมแบบราชปุต (Rajput) นอกจากนี้ในสมัยก่อนด้านล่างของป้ อมยังเป็นทะเลสาบ จึงเป็นปราการสำคัญเพื่อป้องกันข้าศึกได้อีกชั้น ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของราชวงศ์กาญจวาหา อยู่หลายร้อยปี ก่อนมหาราชาสะหวายจัย ซิงห์ที่ 2 จะตัดสินใจย้ายลงไปสร้างเมืองใหม่ยังชัยปุระ ภายในพระราช วังแอมเบอร์ฟอร์ท ระกอบด้วยพระตำหนักต่างๆ ที่เปิดให้นักท่อง เที่ยวเข้าชม ซึ่งส่วนใหญ่จะสร้างในสมัยของมหาราชามาน ซิงห์ (Maharaja Man Singh) ใน ปี ค.ศ. 1592และได้มีการขยายต่อเติมโดยมหาราชาองค์ต่อๆ
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารเดินทางสู่ที่พัก
พัก THE FERN RESIDENCY HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม ฮาวามาฮาล หรือ พระราชวังแห่งสายลม ( Palace of the wind) ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายพระราชวังที่อยู่ในกำแพงเมืองของนครสีชมพูแห่งนี้ พระราชวังสายลมเคยเป็นฮาเร็ม ของมหาราชา มีลักษณะเป็นอาคาร 5 ชั้น สร้างด้วยหินทรายออกแดงคล้ายสีปูนแห้ง เป็นรูปแบบของสถาปัตยกรรม สไตล์เปอร์เซียกับโมกุล ที่สวย เด่น คือ ลวดลายฉลุหินตามหน้าต่าง ช่องระบายอากาศที่บรรดา นางสนมในวังใช้เป็น ที่แอบดูชีวิต ความเป็น อยู่ของสามัญชนทั่วไป และ ประโยชน์อีกอย่างคือเป็นช่องแสงและช่องลมมีช่องหน้าต่าง จำนวนมากถึง 152 ช่องอยู่บริเวณตลาดฮาวามาฮาลบาซาร์ (Hawa Mahal Bazaar) จากนั้นนำท่านชม ซิติ้พาเลส หรือพระราชวังหลวงที่สวยงามสถาปัตยกรรมแบบราชสถาน ที่แสดงถึงศิลปะโมกุล ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่เก็บรวบรวมข้าวของ เครื่องใช้ และประวัติศาสตร์ของอินเดีย
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
ได้เวลาสมควรนำท่านชม ชัล มหัล หรือ พระราชวังกลางน้ำ ซึ่งตั้งเด่นสง่าอยู่กลางทะเลสาบมันสกา โดยพระราชวังแห่งนี้และทิวทัศน์ของทะเลสาบโดยรอบถูกต่อเติมและปรับปรุงโดยมหาราชา สะหวาย จัย สิงห์ที่ 2 ตัวพระราชวังนั้นสร้างได้อย่างสวยงามตามสถาปัตยกรรมราชปุตและโมกุล
อิสระให้ท่านบันทึกภาพกันตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านสู่ วัดพระพิฆเนศ (GANESH TEMPLE) เป็นสถานที่ยอดนิยมที่ชาวต่างชาติและชาวอินเดียเดินทางมาเคารพสักการะเพื่อเป็นสิริมงคล สร้างขึ้นโดย Seth Jai Ram Paliwal ในช่วง ศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ซึ่ง พระพิฆเนศวรช้างหัวเทพในศาสนาฮินดู ถือว่าเป็นพระเจ้าแห่งความเป็นมงคล ภูมิ ปัญญา ความรู้ และความมั่งคั่ง เปรียบเสมือนชีวิตแห่งการค้นหาความสุขนิรันดร
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินชัยปุระ
23.05 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ FD131
04.30 น. คณะเดินทางถึง สนามบินดอนเมือง ด้วยความประทับใจมิรู้ลืม